โพสเมื่อ 18 Aug 2023 11:11:40 111 view
เขียนให้เร็วแบบคุณภาพไม่เลว (เลยนะเนี่ย)
คุณเคยอ่านโพสต์บล็อก หรืออ่านโพสต์ของเพื่อนนักเขียนใน FB หรือไม่ว่า
รับงานเขียนวันละ มากกว่า 10 บทความ
เขียนโพสต์กองมหึมาอยู่หน้าคอมพิวเตอร์แบบไม่ไก่กา
เคยแอบสงสัยว่า
จริงหรือเขาคุยโต แอบ(โม้) หรือเปล่า
และที่สำคัญ เขาทำได้อย่างไร
มีบุคคล 2 จำพวกที่อยากให้อ่านบทความนี้ นั่นคือ
1. คนที่เขียนเร็วอยู่แล้ว แต่จะดีกว่าไหมหากเขียนได้เร็วกว่าเดิม โดยที่ยังรักษาคุณภาพไว้ได้
2. คนที่เขียนเนื้อหาดี แต่แหม กว่าจะได้แต่ละบทใช้เวลานานซะ จนคนอ่านแทบจะโทรตามผลงาน
ลองดูเคล็ดลับ 9 ข้อนี้ที่จะช่วยให้คุณลดเวลาในการเขียนไปกว่าครึ่ง จนคนอื่นแอบทึ่งแบบคุณภาพคับแก้ว ลองมาดูกันว่ามีเคล็ดลับดี ๆ อะไรบ้าง
เคล็ดลับ 1 : พิมพ์เร็ว
จำได้ว่าสมัยเรียนพิมพ์ดีด เวลาสอบพิมพ์จับเวลามือไม้สั่น ตื่นเต้น พอได้ยินเสียงเพื่อนโต๊ะข้าง ๆ รัวนิ้วกัน เราก็รัวนะ ใจสั่นระรัวค่ะ ไม่ใช่นิ้วรัว พอมาวันนี้ถึงรู้ว่า
การวางนิ้วและข้อมือที่เหมาะสม
การนั่งหลังตรงในท่าทางที่เหมาะสม
การพิมพ์แบบสัมผัสโดยไม่มองแป้นพิมพ์
ทั้งหมดนี้ จะช่วยให้คุณพิมพ์แบบสัมผัสได้รวดเร็ว และยาวนานมาก
อย่าเพิ่งเชื่อเรา
ให้ลองฝึกฝน ฝึกฝน และฝึกฝน คุณจะรู้เองว่าสิ่งที่กล่าวมานี้เป็นจริงหรือไม่
แต่หากคุณไม่สามารถฝึกฝนได้อย่างที่เราแนะนำ ยุคนี้เทคโนโลยีช่วยคุณได้ โดยมีเครื่องมือพูดแล้วเปลี่ยนเป็นข้อความ อย่างเช่น Talktyper ใช้กันยาวไปแบบฟรี ๆ ได้เลยค่ะ ซึ่งเครื่องมือนี้ช่วยให้คุณสามารถพูดคุยกับคอมพิวเตอร์ของคุณในขณะที่บันทึกคำพูดและเครื่องหมายวรรคตอนที่คุณระบุไว้ แต่ก็มีข้อเสียอยู่นะคะ เพราะอาจมีข้อผิดพลาดในการแปลงเป็นคำพูดได้เหมือนกัน ดังนั้น หลังจากพูดและแปลงเป็นข้อความแล้วต้องตรวจสอบและแก้ไขข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้
เคล็ดลับ 2 : สร้างรายการผ่านมาทางความคิด
สิ่งนี้เรียกว่า "การสร้างรายการความคิด" เพราะการคิดตามคามต้องกาอาจเป็นเรื่องยากเพราะเป็นงานที่สร้างสรรค์ ความคิดสร้างสรรค์เกิดขึ้นและดำเนินไปเมื่อเราสังเกตและสัมผัสกับสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตของเราได้เสมอ
คุณต้องพัฒนากล้ามเนื้อความคิดของคุณ เพื่อที่คุณจะสามารถปิ๊งไอเดียมากมายได้ตลอดทั้งวัน
“ทุกสถานการณ์ที่ผ่านมาในชีวิตของคุณมีไอเดียต่าง ๆ แฝงอยู่มากมาย เมื่อตั้งคำถามแล้วคุณจะรู้คำตอบ เมื่อลองคิดนอกกรอบคุณจะเห็นความแปลกแตกต่างใหม่ ๆ ที่คนอื่นอาจมองไม่เห็น สิ่งเหล่านี้หากฝึกปรือจะมาพร้อมกับไอเดียที่นำมาสร้างรายได้มหาศาลให้กับคุณได้" (เจมส์ อัลทูเชอร์ กล่าว)
เทคนิคคือ คุณต้องพยายามคิดอย่างน้อย 10 ข้อตลอดทั้งวันแล้วทำการจดบันทึกความคิดเหล่านี้ไว้ ยังไม่ต้องสนใจว่าดีหรือไม่ดี เพราะท้ายที่สุดคุณจะเป็นผู้กลั่นกรองและตกผลึกความคิดเหล่านั้นเองว่าสิ่งใดมีคุณค่าและสามารถนำไปต่อยอดได้
เคล็ดลับ 3 : สร้างบรรยากาศให้ขาดสิ่งรบกวน
สิ่งเร้าที่รบกวนสมาธิในการเขียนงานของคุณมีอยู่มากมาย เช่น
อยากชมเว็บไซต์สุดโปรด
อยากดูฟีดในเฟสบุ้ค
อยากดูว่าตอนนี้อินสตาแกรมมีใครupdate อะไรใหม่ ๆ
อยากดูทีวี
อยากฟังเพลง
เช็คข้อความในโทรศัพท์และโซเชียล
อยากกินขนม ของว่างเพลิน ๆ
ฯลฯ
จะเห็นได้ว่าสิ่งรบกวนมีอยู่มากมาย คุณไม่สามารถกำจัดมันออกไปได้ทั้งหมดหรอก เชื่อเถอะ แต่คุณทำได้เพียงกำจัดสิ่งต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเร็วในการเขียนของคุณได้มาก นั่นคือ "กำจัดสิ่งที่ทำให้ใจเราไขว้เขว" ด้วยการ
หาสถานที่ทำงานเงียบ ๆ คือ อยู่แบบเงียบๆ คนเดียว
ปิดเพลง จริงอยู่ที่เสียงเพลงจะทำให้คุณผ่อนคลาย แต่หากคุณไป concentrate กับเสียงเพลงมากเกินไป อาจทำให้สมาธิในการสร้างงานเขียนของคุณเสียลง แต่หากอยากฟังจริง ๆ ก็อาจจะเลือกเปิดเพลงบรรเลงที่มีเพียงเสียงดนตรีและสร้างสมาธิแทน น่าจะเหมาะกว่า
ล็อคเว็บไซต์บอกปลั๊กอินว่าคุณฟินกับการไม่ต้องเข้าถึงเว็บไซต์สุดโปรดช่วงเวลาหนึ่ง
เขียนแบบออฟไลน์ หากใจยังไม่สามารถตัดสิ่งต่าง ๆ ที่กล่าวมาได้ ให้เลือกวิธีการเขียนแบบออฟไลน์ คือไม่ต้องรับรู้ข่าวสารและตัดการติดต่อจากโลกออนไลน์ไปเลย
ทำตัวเป็นอิสระ สะสางงานสำคัญก่อนเริ่มงานเขียน
เคล็ดลับ : 4 ร่างโพสต์ล่วงหน้า
การที่คุณร่างโพสต์ก็เหมือนกับการ make up หน้าน่ะแหละค่ะ คือคุณต้องรู้โครงหน้าก่อนจึงจะลงเครื่องสำอางค์ให้เหมาะกับใบหน้าของคุณได้ ซึ่งงานเขียนก็เหมือนกัน หากคุณโครงเรื่องแล้ว คุณจะสามารถเดินหน้าเขียนต่อได้ว่าคุณกำลังพยายามทำอะไร และสามารถค้นคว้าหาแหล่งข้อมูลมา support งานเขียนของคุณได้มากขึ้น
“โครงร่าง" ไม่จำเป็นต้องใช้เวลานานมากในการรวบรวม แต่มีทริคง่าย ๆ คือ เขียนหัวข้อย่อยทั้งหมดในบทความรวมถึงหัวข้อย่อยหลักสองสามประเด็นเพื่อเตือนว่าควรเขียนบทความให้ครอบคลุมอะไรบ้าง
เคล็ดลับ : 5 เขียนไปก่อนแล้วค่อยย้อนมาแก้ไข
นักเขียนชื่อดังอย่าง เฮมิงเวย์กล่าวว่า "ร่างแรกคือขยะ" จริงอยู่ แต่ขยะที่เฮมิงเวย์กล่าวไว้ มันคือขยะรีไซเคิล หากคุณรู้จักนำมาดัดแปลง แก้ไข คุณก็จะได้ผลงานชิ้นโบว์แดงขึ้นมาใหม่ก็ได้
เมื่อคุณเขียน – เขียน-แล้วก็เขียน คุณสามารถจดจ่ออยู่กับการเขียนเท่านั้น สิ่งนี้ช่วยให้จิตใจของคุณจดจ่อกับสิ่งที่คุณควรเขียนในตอนนี้และสิ่งที่ควรจะเกิดขึ้นต่อไปคือ คุณจะมองเห็นว่ามีสิ่งใดที่ควรปรับปรุงแก้ไข สมองของคุณจะบอกคุณเอง ดังนั้น จงอย่าพยายามเขียนไปพร้อมกับแก้ไข
เคล็ดลับ : 6 หยุดพัก (สมอง) ก่อนมอเตอร์ไหม้
คุณคิดว่าเป็นไปได้หรือ ที่คุณจะตั้งหน้าตั้งตา ตะบี้ตะบันสร้างงานเขียนโดยไม่หยุดพักเลยทั้งวัน แต่ทั้งนี้ รอบการหยุดพักของแต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกัน บางคนต้องการพักบ่อยแต่พักเพียงชั่วครู่ แต่บางคนนาน ๆ พักที แต่ขอพักแบบเป็นชั่วโมง ดังนั้น จงฝึกสังเกตสมาธิของตัวเอง และปรับพฤติกรรมการหยุดพัก (สมอง) ระหว่างเขียนให้เข้ากับตัวเอง
เคล็ดลับ : 7 สร้างdeadline ขีดเส้นตายให้ตัวเอง
อย่าผลัดวันประกันพรุ่งเพราะมันจะยุ่งเมื่อถึงเส้นตาย การเขียนโพสต์คุณต้องมีความคิดที่ชัดเจนว่าคุณต้องการรวมอะไรไว้ในโพสต์ ภายใต้ระยะเวลาที่กำหนดไว้ โดยต้องไม่มีอะไรเพิ่มเติม นอกจากนี้ คุณยังสามารถกำหนดเส้นตายสำหรับการตรวจอีเมล์ในตอนเช้า จากปกติเคยใช้เวลา 1 ชั่วโมงให้เหลือภายใน 10 นาที
เคล็ดลับ : 8 เลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมเพาะบ่มงานเขียน
ข้อนี้ไม่สามารถตัดสินได้ชัดเจนว่าเวลาใดเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุด มันขึ้นอยู่กับความถนัด ความชอบของแต่ละบุคคล
หากคุณพบว่าคุณมีประสิทธิผลมากขึ้นในตอนเช้าให้ เขียนในตอนเช้า
หากคุณพบว่าคุณมีประสิทธิผลมากขึ้นในตอนเย็นให้ เขียนตอนเย็น
เคล็ดลับ : 9 ใช้คำง่าย ๆ สื่อสารในงานเขียน
คุณเคยหยุดเขียนชั่วคราวเพื่อคิดถึงคำที่สมบูรณ์แบบหรือไม่?
สิ่งนี้มันทำให้เสียเวลามากทั้งผู้เขียนและผู้อ่าน ผู้เขียนเองก็ต้องหยุดคิดเพื่อหาคำที่คิดว่าสวยหรูมาใส่ในบทความ ส่วนผู้อ่านเองก็ต้องเสียเวลาคิดว่าคำนี้หมายถึงอะไร
การเขียนอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพคงไม่สามารถเกิดขึ้นได้เพียงแค่คุณได้อ่านเคล็ดลับดี ๆ ที่เรานำมาฝากให้ แต่มันจะเกิดขึ้นได้เมื่อคุณลงมือทำและทำมันอย่างต่อเนื่อง ทุกวันนี้การเป็นนักเขียนไม่ใช่เรื่องฝันเฟื่องอีกต่อไป แต่มันคือสิ่งที่ทุกคนทำได้ เพียงแค่ "ลงมือทำ"