โพสเมื่อ 07 Jul 2020 18:18:31 3351 view
การเขียนเชิงบำบัด
สถานการณ์ปัจจุบัน ความเร่งรีบ, สภาพเศรษฐกิจถดถอย, ซ้ำร้ายยังมีโรคระบาด(โคโรนาไวรัส 2019) ที่ยังไม่สามารถควบคุมสถานการณ์อย่างถาวรได้ในขณะนี้ ส่งผลให้มนุษย์เรามีความเครียดสะสม หากไม่หาวิธีผ่อนคลายความเครียดนานวันเข้าอาจทำให้เจ็บป่วยได้ทั้งร่างกายและจิตใจ
สิ่งใดที่ช่วยทำให้อาการผิดปกติที่เราเป็นอยู่ทุเลาลง ความทุกข์หรือเศร้าและความเครียดลดลง หรือบางครั้งอาจช่วยได้มากถึงว่าอาการผิดปกติที่เคยเป็นไม่กลับมาเป็นอีก การดูแลเยียวยาแบบนี้ เราไม่ต้องพึ่งยาที่เป็นสารเคมี หรืออาจใช้บำบัดควบคู่ไปกับการรักษาทางการแพทย์แผนปัจจุบันก็ได้ วิธีการเช่นนี้ ถูกเรียกว่า "การบำบัด" ส่วนจะเป็นการบำบัดด้วยวิธีใดก็สุดแล้วแต่บุคคลว่าชอบแบบใด ยกตัวอย่างเช่น
* ดนตรีบำบัด ผลการวิจัยเชื่อว่าดนตรีช่วยบำบัดความเครียด ช่วยให้ผ่อนคลาย หรือแม้กระทั่งช่วยให้พืชผักและสัตว์อารมณ์ดีส่งผลให้ผลผลิต, รสชาดดีขึ้น
* ธรรมชาติบำบัด ถือเป็นการรักษาอีกทางเลือกหนึ่งของผู้ป่วยมะเร็งบางรายที่เลือกรักษาวิธีนี้
* กายภาพบำบัด บางคนป่วยเป็นอัมพฤกษ์ สุดท้ายต้องมาหัดเคลื่อนไหวร่างกายใหม่หัดเดิน หัดช่วยเหลือตัวเอง โดยการทำกายภาพบำบัด
* สมาธิบำบัด ถือเป็นการบำบัดอีกอย่างหนึ่งที่ครอบคลุมความคิดจิตใจของมนุษย์เรา
แต่คุณเชื่อหรือไม่ว่า ไม่เพียงแต่สิ่งที่กล่าวมาข้างต้นเท่านั้นที่จะช่วยบำบัดทำให้เราหายเครียด รู้สึกผ่อนคลายได้ "การเขียน" ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ช่วยบำบัดสภาวะจิตใจของมนุษย์เราได้เช่นกัน เพราะการเขียนก็ถือเป็นศิลปะแขนงหนึ่ง หากแต่ต้องรู้เทคนิคในการเขียนเพื่อบำบัด จึงไม่น่าแปลกใจว่า หากเราเขียนเป็น "การเขียน" เราก็สามารถนำเอาการเขียนมาช่วยบำบัดสภาวะจิตใจของเราได้เช่นกัน
ทำไม "การเขียน" จึงกลายมาเป็นเครื่องมือบำบัดสุขภาพกายและใจได้ล่ะ เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้หลายคนอาจสงสัยและอยากรู้เหตุผลกันแล้ว
การเขียนเป็นการบำบัดอย่างหนึ่ง สามารถปรับปรุงสุขภาพของตัวเราเองได้ โดยได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประโยชน์ทั้งทางร่างกายและจิตใจ รวมถึง
ลดความวิตกกังวล,อาการครุ่นคิดและอาการซึมเศร้าในผู้ป่วยที่ถูกตัดสินกระทำความผิด
ลดอาการซึมเศร้าของผู้ได้รับการบาดเจ็บและความเครียดจากบาดแผลทั้งในเด็กและผู้ใหญ่
ลดอาการของโรคและพัฒนาให้ผู้ป่วยที่มีอาการลำไส้แปรปรวนได้มีความเข้าใจและยอมรับในอาการป่วยของตนเอง
จริง ๆ แล้ว การเขียนก็จัดได้ว่าเป็นงานอดิเรกอีกประเภทหนึ่งของใครหลาย ๆ คน อย่าเข้าใจผิดคิดว่า "การเขียน" เป็นเพียงเรื่องของผู้ที่มีอาชีพเป็นนักเขียนเท่านั้น เปล่าเลย "การเขียน" เป็นสิ่งที่ทุกคนทำได้ คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเราทุกคนเขียนได้ เขียนเป็น กันมาตั้งแต่เริ่มเรียนหนังสือตอนเด็ก ๆ กันแล้ว พอเวลาล่วงเลยผ่านไป เรามีกิจกรรมอื่น ๆ เข้ามาเกี่ยวพันกับชีวิตเรามากขึ้น บางครั้ง เราอาจมองข้ามและให้ความสำคัญกับการเขียนน้อยลงไป
บางคนมีหนังสือ, เพลง, เกมส์, โทรศัพท์มือถือ เป็นเพื่อนยามเหงา ทำให้เพลิดเพลิน ลืมเรื่องราวทุกข์ใจที่ผ่านเข้ามาในชีวิต แต่มีคนจำนวนไม่น้อยเลยที่เลือกจะระบายความทุกข์หรือปัญหาในใจออกมาผ่านตัวอักษร เรียงร้อยถ้อยคำออกมาด้วย "การเขียน"
เคยสังเกตไหมว่าเมื่อไรก็ตามที่คุณเริ่ม
เขียนระบายความในใจออกมาตามที่คุณคิด
ทิ้งกฎเกณฑ์การเขียน ทลายกรอบทฤษฎีการเขียนที่ร่ำเรียนมาทั้งชีวิตออกไป
ไม่มีผิดถูก
เขียนได้เท่าที่อยากจะเขียน
คุณจะรู้สึกผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น ปัญหาต่าง ๆ ที่รุมเร้า หรือหาทางออกไปเจอ ก็จะมองเห็นเป็นรูปธรรมและค่อย ๆ พบทางออกของปัญหาได้ดียิ่งขึ้น
แต่การเขียนในเชิงบำบัดนั้น ควรจะเป็นการเขียนที่เป็นเชิงสร้างสรรค์ ไม่ควรตอกย้ำจุดสีดำในใจ เพราะหากเป็นเช่นนั้น กลับยิ่งเป็นการซ้ำเติมบาดแผลในใจคุณยิ่งขึ้น ดังนั้น แม้การเขียนเชิงบำบัดจะไร้กฎเกณฑ์ทฤษฎีการเขียน แต่ในทางกลับกัน กลับเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังทางด้านความรู้สึก ความความคิด เป็นพิเศษ
บทความตอนหน้า เราจะมาแบ่งปันเทคนิคการเขียนเชิงบำบัดกันค่ะว่าควรเขียนอย่างไร อย่าลืมมาติดตามตอนต่อไปกันนะคะ