โพสเมื่อ 07 Jan 2019 10:10:29 2061 view
Writer's Block
อยู่ๆอาการ "เบื่อ"
ก็ชักกระตุกทำให้จิตเซ็งบ๊อยบ่อย
แม้จะได้ทำในสิ่งที่รักก็ตาม..
แต่การที่ทำอะไรซ้ำๆ อยู่กับจุดเดิมๆ
ความตื่นเต้น..รู้สึกสนุก ..มันหล่นหาย
หรือนี้มันคือการ Writer's Block
#อารมรณ์สร้างสรรค์มันหายไป
..
พยายามค้นหาคำตอบ
แท้จริงแล้วเราเป็นอะไรหรือควรทำอย่างไร
จนเมื่อค้นหา..ถามgoogleอาการแบบนี้มีขึ้นทั่วโลก
เกือบทุกคน ใครๆ ก็เป็นได้
ไม่รู้จะเขียนอะไร ไม่อยากเขียนคิดไม่ออก
จึงได้นำกลยุทธ์จากได้ที่ได้อ่านมามาแบ่งปันจ้า
..
1.กลยุทธ์“ Timed Writing”
ของ Anthony Trollope
หนึ่งในนักเขียนนวนิยายที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด
แห่งยุควิคตอเรียน Trollope ตลอดระยะเวลา35ปี
เธอเขียนนิยาย 47 เรื่องรวมเรื่องสั้นสารคดีและบทละครมากมาย
เธอใช้เวลาตั้งนาฬิกาเวลาของตัวเอง
ว่าต้องเขียน ทุกๆชั่วโมง 250 คำ อย่างสม่ำเสมอ
แบ่งเวลาในการเขียนงานให้ได้ตามเป้านั่นเอง
..
2.กลยุทธ์ “Hibernation”ของNeil Gaiman
เขาแนะนำให้วางงานเขียนทุกอย่างลงบนหน้า
จะกี่วันก็ได้จนคุณรู้สึกดี หลักจากนั้นเมื่อความรู้สึกมา
ให้นั่งอ่านค้นข้อมูล และลงมือเริ่มเขียน
และค่อยๆกลับมาอ่านทบทวนเพิ่งทีละคำสองคำ
จากนั้นคุณจะรู้ว่าคำที่สามที่สีคืออะไร
สมองจะพลั่งพรูออกมาแบบฉุดไม่อยู่
..
3.John Steinbeckแนะนำให้ใช้
กลยุทธ์ “Write to One Person”
ประมาณว่าให้โฟกัสที่ตัวเองนั้นละ เขียนขึ้นมาตามที่ใจเรารู้สึก
ให้ตัวเองอ่าน หยุดกังวลกับการต้อง"พยายาม"
เพื่อเขียนให้ทุกคนพอใจ เพราะแต่ละคนมีความชอบ
ไม่เหมือนกัน บางคนชอบแนวแฟนตาซี
บางคนชอบแนวระทึกขวัญ ให้ถ่ายทอดงานเขียน
ในแบบที่ตนเองถนัดพอแล้ว
..
แต่ที่เห็นจะเหมาะกับตัวเราเองมากที่สุด
น่าจะเป็นกลยุทธ์ของErnest Hemingway
เขาใช้กลยุทธ์“Hoarding” ประมาณว่า
ถ้ามีอารมณ์ในการเขียนก็จงเขียนมันต่อไป
แต่เมื่อตันเมื่อไร ให้หยุด "กักตุน"เนื้องาน
ในช่วงองค์ลงนั่นละ ไม่ต้องกดดัน
กังวลว่าต้องเขียนให้ได้เยอะที่สุด
หยุดเมื่อเรารู้ว่าสมองเราไม่โอเคแค่นี้นะ
แล้ววันต่อไปค่อยมารันงานต่อ
อย่าให้จิตสำนึกมาสั่งว่า "ต้องทำ"
ใช้สติ สมองจะได้ไม่ล้า เหนื่อยกับการเขียนงาน
..
และที่เด็ดอีกอันคือกลยุทธ์ของHilary Mantel
คือ Get Away From Your Desk
หลีกหนีจากโต๊ะทำงานเดิมๆที่จำกัดความคิดของคุณ
ทำให้สมองตันคิดไม่ออก เขาแนะนำให้ออกไปเดิน
ออกกำลังกาย นั่งสมาธิ ดูหนังฟังเพลง
อะไรก็ได้ที่ทำให้รู้สึกดีขึ้นจากนั้นค่อยมารันงานต่อ
..
#จริงๆใช้ได้หมด
#สมองมันตันก็ควรพัก